The Mission สารคดีชีวิตมิชชันนารีผู้ข้ามเขตแดนความฝันสู่ความตาย

The Mission สารคดีชีวิตมิชชันนารีผู้ข้ามเขตแดนความฝันสู่ความตาย

เมื่อเส้นบางๆ ของการมุ่งมั่นทำตามความฝันกับการเคารพขอบเขตของสังคม “ผู้เป็นอื่น” พร่าเลือน โศกนาฏกรรมจึงตามมา

เรื่องราวของ จอห์น อัลเลน เชา มิชชันนารีหนุ่มที่มีความฝันและศรัทธาอยากเผยแพร่ศาสนา ผจญภัย และเดินทางไปยังดินแดนไปในพื้นที่ที่คนเข้าไม่ถึง และเกาะเซนติเนลเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย เกาะที่ไม่มีภาษา ไม่มีวัฒนธรรม อย่างนิยามตามกรอบของโลกตะวันตก จึงกลายเป็นเป้าหมายที่จอห์นอยากไปพิชิตมาก

ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ดำเนินเรื่องด้วยการสัมภาษณ์คนรอบตัวของจอห์น ทำให้เราได้เห็นวิธีการมองโลกอันแตกต่างของจอห์น เขาสนใจสิ่งต่าง ๆ มากมาย และกล้าหาญที่จะลงมือทำ แม้บางครั้งจะถูกมองว่าความกล้าหาญที่เขามีออกจะมากเกินไปก็ตาม

John Allen Chau

จอห์น อัลเลน เชา (John Allen Chau) คือใคร?

จอห์น อัลเลน เชา หรือ จอห์น เชา มิชชันนารีหนุ่ม ลูกครึ่งจีน-อเมริกัน วัย 27 ปี ที่มีมุ่งมั่นต้องการทำสิ่งที่แตกต่างและไปให้ไกลสุดขอบความสามารถ สิ่งที่จอห์นอยากทำนั้นคือการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ให้แก่คนในเกาะเซนติเนลเหนือ เกาะหนึ่งของหมู่อันดามันในอ่าวเบงกอล ซึ่งเป็นเกาะที่ยังไม่มีใครเข้าถึง

The Mission John Allen Chau

เรื่องดำเนินผ่านการสัมภาษณ์คนรอบตัวของจอห์น และฟุตเทจที่จอห์นถ่ายทำไว้ ทั้งภาพบรรยากาศระหว่างการเดินทาง ภาพผู้คนบนเกาะเซนติเนลเหนือ ตัดสลับกับการใช้แอนิเมชันสีน้ำ แทนเรื่องราวส่วนที่จอห์นไม่ได้บันทึกไว้เป็นฟุตเทจ ช่วยเชื่อมเรื่องด้วยจินตภาพของแอนิเมชัน แม้แอนิเมชันจะมีสีสันแต่ส่วนตัวเรากลับรู้สึกอึดอัด อาจจะเป็นเพราะรู้แล้วว่าปลายทางจะจบอย่างไร จากบทสัมภาษณ์ความเห็นจากคนรอบข้าง ทำให้เรารับรู้ว่าเขาเป็นคนกล้าหาญ มีพลังของความบ้าบิ่นอย่างสุดโต่ง เขาจึงกล้าผจญภัยในที่ที่ไม่มีคนไป ด้วยความคิดว่าอยากเป็นผู้บุกเบิกสู่ดินแดนที่ยังไม่ถูกคนนอกแตะต้อง

The Mission

เกาะเซนติเนลเหนือ อยู่ตรงไหนในแผนที่โลก?

เกาะเซนติเนลเหนือ อยู่ในอ่าวเบงกอล หมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย สภาพแวดล้อมของเกาะเซนติเนลเหนือ มีพืดหินปะการังที่โอบล้อมตัวเกาะ มีธรรมชาติเฉกเช่นเดียวกับหมู่เกาะต่าง ๆ แต่ความต่างก็คือสภาพแวดล้อมของเกาะไม่ได้ถูก ‘ความศิวิไลซ์’ ตามนิยามของคนเมืองที่เข้ามามีอิทธิพล

The Mission

ส่วนผู้คนบนเกาะเราก็มองด้วยสายตาคนนอกว่าเขาราวกับมาจากมนุษย์ยุคหิน ดำรงชีบด้วยการไล่ล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหาร เสื้อผ้าหนึ่งเดียวของพวกเขาคือเชือกหมัดเอวที่ปกปิดอย่างมากสุดก็เพียงอวัยวะเพศ อีกครั้ง สำหรับพวกเราความต่างก็คือความแปลก แต่สำหรับพวกเขามันคือชีวิตปกติ นอกจากมีการบันทึกก่อนหน้านี้ไว้ว่าพวกเขาเป็นผู้คนจำพวกที่กินเนื้อสัตว์เนื้อคน และเป็นชนเผ่าที่เก่าแก่ที่สุด แต่ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่ายืนยันว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ระหว่างเรื่องดำเนินไปจากหลายมุมมอ ทำให้เราได้คิดตามและตั้งคำถามกับตัวเองว่าว่าทำไมจอห์นถึงกระทำเช่นนั้น ทำไมมีความคิดแบบนั้น และบางความเห็นจากเพื่อนของจอห์นที่ว่า “ความศรัทธากับความบ้าคลั่งมีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่” ก็ช่วยตอบคำถามได้ แต่ในความสุดขั้วของสิ่งที่จอห์นทำ ก็มีสิ่งดี ๆ ทิ้งไว้ให้นะ คือการที่เดินตามความฝันอย่างไม่ย่อท้อ และความกล้าหาญที่ในแง่หนึ่งก็ต้องเคารพสิ่งที่ตัวเขาเป็นและเลือกเอง

เส้นบาง ๆ ของความศรัทธาหรือบ้าคลั่งที่จอห์นได้ก้าวขาข้ามไป ทำให้ชาวเซนติเนลเหนือยกคันธนูเพื่อเตรียมพร้อมที่จะยิงใครก็ตามที่ข้ามเขตมาสู่ดินแดนของพวกเขา “คนที่อยู่กับธนูมาทั้งชีวิต ไม่มีวันยิงพลาด สิ่งที่เขาทำนั้นแค่อยากเตือน” แดเนียล เอเวอร์เร็ตต์ นักภาษาศาสตร์ หนึ่งในผู้ให้สัมภาษณ์ เขาขยายความว่า คนที่อยู่กับธนูมาทั้งชีวิตอย่างคนบนเกาะเซนติเนลเหนือ ต้องใช้ธนูในการล่าสัตว์และการป้องกันตัว พวกเขาผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ฉะนั้น เขาไม่มีทางที่จะยิงพลาด เว้นแต่เพียงเขาต้องการเตือนเราให้ห่างออกไปเพียงเท่านั้น และลูกธนูนั้นได้ยิงไปโดนคัมภีร์หลักคำสอนของจอห์นที่เขาหวังเพียงอยากเผยแพร่และให้ผู้คนยอมรับ

การเผยแพร่หรือการยัดเยียดศาสนาให้คนบนเกาะเซนติเนล?

นอกจากเรื่องของจอห์นอยากเผยแพร่ศาสนาคริสต์ น้ำหนักของการเล่าเรื่องถ่ายเทไปที่มุมมองจากคนรอบข้างของจอห์นเป็นหลัก แต่มุมมองของชาวเกาะเซนติเนลเหนือ มีใครได้ถามเขาไปไหม เขาสามารถพูดออกมาได้ไหมว่าเขาต้องการหรือไม่ต้องการอะไร?

Catholic Church

ความเห็นจากคนนอกประมาณว่า “ก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว” หรือ “ไม่ต้องมานับถือศาสนาของฉัน ให้พวกเขาอยู่อย่างนั้นไป” คล้ายกับสื่อนัยว่า ก็ปล่อยให้พวกเขา (ล้าหลัง) ไป ไม่ต้องมานับถือศาสนา (ที่แสนจะศิวิไลซ์) ของฉันหรอก ส่วนตัวเราคิดรู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ซ่อนความกดข่มอยู่ในที มันจำเป็นหรือ ที่พวกเขาต้องมานับถือศาสนาอย่างเช่นพวกเรา จึงจะถือว่ามีชีวิตที่ดี จึงจะนับว่าเป็นผู้เจริญแล้ว?

ฉะนั้น จึงอยากถามต่อว่าสิ่งที่จอห์นทำคือการไปยัดเยียดศาสนาให้พวกเขาหรือเปล่า? พวกเขาจะต้องการมันไหม? ความสงสัยเหล่านี้ทำให้คิดตามมาได้เหมือนกันว่า บางทีการมีชีวิตของพวกเขามันดีในแบบของพวกเขาอยู่แล้ว การที่พวกเขาตัดขาดจากโลกภายนอกเพราะต้องการจะอยู่แบบนั้น เราเองไม่ควรไปคิดแทนว่าเขาต้องการ หรืออยากได้อะไร แม้ไม่มีศาสนาที่พวกเรานั้นนิยามว่าดีงาม พวกเขาอาจนับถือบูชาป่าไม้ ธรรมชาติ นับถือความเป็นอยู่ของพวกเขาในแบบที่พวกเขาเลือกเอง แล้วเกาะเซนติเนลเหนือเอง ก็ได้ถูกปกป้องไว้ให้เป็นเขตหวงห้าม อยูู่ในพื้นที่คุ้มครองของประเทศอินเดีย สิ่งที่จอห์นทำจึงเท่ากับการบุกรุกพื้นที่ของพวกเขา และสุดท้ายจอห์นได้เสียชีวิตจากความพยายามนั้น

การจากไปโดยไม่มีการจากลา

จอห์นคงไม่คิดว่าไดอารี่ที่เขาเขียนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้คนข้างหลัง แต่ลึก ๆ  แล้ว เขาอาจรู้ตัวว่าจะไม่ได้มีชีวิตรอดกลับมา แรงขับเบื้องหลังของการยอมแลกทุกสิ่งขนาดนี้ นอกจากเพื่อทำตามความฝันของตัวเองแล้ว เขายังอยากให้พ่อยอมรับในตัวเขาด้วย แม้สุดท้าย ความปรารถนานั้นต้องแลกด้วยการยอมสละชีวิตของเขาก็ตาม

“ยินดีที่จะมีชีวิตและลาจากอย่างสงบ” พ่อของจอห์นได้กล่าวไว้ การจากไปของจอห์นทำให้เขาได้ตระหนักและอดโทษตัวเองไม่ได้ว่าเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ผลักให้จอห์นมีความคิดที่สุดโต่ง และจมดิ่งกับเรื่องราว

ข่าวรายงานว่าจอห์น อัลเลน เชา ถูกคนบนเกาะเซนติเนลเหนือยิงธนูใส่จนเสียชีวิต หากเราไม่ได้รู้เรื่องราวนี้มาก่อนที่จะดูภาพยนตร์ คงทำให้สะเทือนใจไปเลยทีเดียว จอห์นเสียชีวิตในปี ค.ศ. 2018 มีเพียงไดอารี่ที่จอห์นได้จดบันทึกไว้จนกลายมาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ณ ปัจจุบันก็ยังไม่พบร่างของจอห์นและยังค้นหากันอยู่ เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนสนใจและแสดงความคิดเห็นต่อการกระทำของจอห์นในมุมต่างๆ ส่วนตัวเราเองคิดว่าสิ่งที่จอห์นทำคือการยัดเยียดศาสนาในนามของความปรารถนาดี การบุกรุกพื้นที่ การละเมิดสิทธิของคนบนเกาะเซนติเนลเหนือ แต่หากถามว่าคนบนเกาะเซนติเนลเหนือยิงธนู หรือการทำร้ายใครเป็นสิ่งที่ถูกไหม ก็คงไม่ใช่อย่างแน่นอน และเหตุการณ์นี้ทำให้จอห์นต้องพลีชีพเพื่อสละชีวิตไว้กับความฝันของเขาตลอดกาล

เรื่อง กัญญารัตน์ นามแย้ม

โครงการสหกิจศึกษากองบรรณาธิการเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย

รูป National Geographic

ติดตามรอบฉายของสารคดี The Mission ที่ https://documentaryclubthailand.com/now-showing/


อ่านเพิ่มเติม

“ทัณฑ์รักจากลาวา (Fire of love)” โดย National Geographic

Recommend