การทดลองพบว่าเทคนิคทางนิติเวชที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน สามารถนำมาดัดแปลงเพื่อใช้กับซากโครงกระดูกอายุนับพันปีได้
มีชาวประมงผู้หนึ่งเสียชีวิตอยู่ใกล้ชายฝั่งของทะเลทรายอาตากามา (Atacama Desert) ในประเทศชิลีตั้งแต่ 5,000 ปีก่อน การตายของเขาอาจเป็นการจมน้ำเสียชีวิตธรรมดา หรือไม่ธรรมดาก็คงไม่มีใครรู้ จนในที่สุด ทีมนักวิจัยสามารถพิสูจน์การจมน้ำเสียชีวิตของชาวประมงในยุคหลายพันปีก่อนผู้นี้ได้ ด้วยเทคนิคนิติเวชแบบพิเศษ
ไดอะตอม (diatom) เป็นสาหร่ายเซลล์เดียวขนาดเล็ก มองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ การทดสอบไดอะตอม (diatom test) เป็นเทคนิคทางนิติเวชในปัจจุบันที่ใช้ในการพิสูจน์ว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นมาจากการจมน้ำ ซึ่งผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำจะหายใจหรือสำลักน้ำเข้าไปในร่างกายทำให้ไดอะตอมสามารถเดินทางไปตามระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตของผู้ตายได้ ดังนั้นจะมีการพบไดอะตอมในอวัยวะที่ไกลออกไปจากปอดและอวัยวะต่างๆ ที่เลือดไปถึง เช่น ตับ ไต สมอง และไขกระดูกของผู้ตาย ผู้ที่เสียชีวิตก่อนจมน้ำจะไม่มีการหายใจเกิดขึ้นจึงไม่สามารถตรวจพบไดอะตอมในอวัยวะดังกล่าวได้นั่นเอง
วารสาร Archaeological Science ฉบับเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 เผยแพร่การทดลองของคุณเจมส์ กอลฟ์ (James Goff) นักธรณีวิทยามหาวิทยาลัยเซาท์แฮมพตันแห่งสหราชอาณาจักร และผู้เชี่ยวชาญเรื่องสึนามิในประวัติศาสตร์ คุณกอลฟ์ทำการทดลองไดอะตอมในซากโครงกระดูกเก่าแก่ที่พบบนหาดของทะเลทรายอาตากามา ผลการทดลองนี้ ยืนยันว่าการทดสอบไดอะตอมแบบดัดแปลงสามารถพิสูจน์การจมน้ำเสียชีวิตของซากมนุษย์ที่มีอายุเก่าแก่นับพันปีได้ ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าทางโบราณคดีเกี่ยวกับสึนามิครั้งสำคัญ
ซากศพนับพันปี
ซากโครงกระดูกที่คุณกอลฟ์ใช้ในการทดลองนำมาจากแหล่งโบราณคดีคาโปคา 1 (Capoca 1) ซึ่งอยู่บนหาดทางตอนเหนือของทะเลทรายอาตากามา การหาอายุคาร์บอน (radiocarbon dating) ทำให้ประเมินได้ว่าโครงกระดูกนี้มีอายุราว 5,000 ปี คุณเพโดร อานเดรด (Pedro Andrade) นักมานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยกอนเซปซีออนเคยทำการสำรวจหลุมฝังศพนี้มาก่อนในปี พ.ศ. 2559 จากรอยสึกหรอบนกระดูกที่คาดว่ามาจากการพายเรือเป็นประจำ และการวิเคราะห์ไอโซโทป (isotopic analysis) พบว่าศพเคยกินอาหารทะเลเป็นหลัก คุณอานเดรดสรุปว่าโครงกระดูกนี้น่าจะเป็นของชาวประมง
โครงกระดูกดังกล่าวอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ดี แต่กระดูกสันหลังส่วนคอของเขาหายไปและถูกแทนที่ด้วยเปลือกหอยยักษ์ กระดูกแขนขาของเขาชี้ไปคนละทิศละทาง
คุณกอลฟ์กล่าวว่าโครงกระดูกนี้เหมาะสำหรับการทดสอบไดอะตอมเป็นอย่างมาก “ดูจากกระดูกเขาแล้ว เรารู้ว่าเขาเคยเป็นชาวประมง ท่าทีการถูกฝังของเขาดูแปลกๆ เรามาทดลองดูกันดีกว่าว่าเขาจมน้ำตายรึเปล่า”
การชันสูตร
ทีมวิจัยเลือกตรวจสอบกระดูกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดเพื่อลดความเป็นไปได้ที่กระดูกนั้นจะผ่านการถูกปนเปื้อนหลังการเสียชีวิตของศพ ไขกระดูกถูกถ่ายภาพด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน การทดสอบไดอะตอมในปัจจุบันมักนำไขกระดูกออกมาย่อยด้วยสารเคมี แต่คุณกอลฟ์ใช้วิธีดัดแปลงพิเศษสำหรับการทดลองซึ่งเก็บไขกระดูกไว้ที่เดิมและมีการใช้สารเคมีต่ำกว่าปกติซึ่งจะรักษาอนุภาคขนาดเล็กอื่นๆ นอกจากไดอะตอมไว้ด้วย
ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปอย่างน่าแปลกใจ เนื่องจากทีมทดลองไม่พบฟอสซิลของไดอะตอมบนกระดูกที่ใช้ทดลองเลย อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยพบฟอสซิลของสาหร่ายทะเล ตะกอนและอนุภาคขนาดเล็กอื่นๆ ในไขกระดูกซึ่งคุณกอลฟ์กล่าวว่าการทดสอบไดอะตอมแบบปกติจะไม่มีอนุภาคขนาดเล็กเหล่านี้หลงเหลืออยู่แต่คุณกอลฟ์ก็ยังไม่แน่ใจถึงสาเหตุที่ไม่พบไดอะตอม
การค้นพบอนุภาคขนาดเล็กในไขกระดูกทำให้การทดลองยังคงยืนยันได้ว่าศพนี้เสียชีวิตจากการจมน้ำ อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยไม่พบหลักฐานของการจมน้ำในซากมนุษย์อีกสองศพที่เสียชีวิตในเวลาและพื้นที่ใกล้เคียง ทีมวิจัยจึงสรุปว่าศพของชาวประมงจมน้ำเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบางอย่าง ไม่ใช่เพราะคลื่นสึนามิ
การทดลองครั้งนี้ยืนยันว่ามีวิธิพิสูจน์ว่าใครจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งเป็นความก้าวหน้าทางโบราณคดีที่สำคัญ คุณกอลฟ์กล่าวว่า “เรารู้ว่าพื้นที่ตามชายหาดหลายแห่งเป็นจุดที่มีศพฝังอยู่หลายศพ ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าศพเหล่านั้นจมน้ำเสียชีวิต เราก็อาจสรุปได้ว่าพวกเขาตายเพราะสึนามิ ถ้าเราศึกษาหลักฐานทางโบราณคดีอื่นๆ เพิ่มเติมเราก็จะเข้าใจถึงความเป็นอยู่บนชายฝั่งของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ทั่วโลกมากขึ้น”
นอกจากนี้ คุณเบเวอร์ลี กูดแมน เชอร์นอฟ (Beverly Goodman-Tchernov) อาจารย์ธรณีศาสตร์ทางทะเลแห่งมหาวิทยาลัยไฮฟา ประเทศอิสราเอลและนักสำรวจของเนชั่นแนล จีโอกราฟิก มีแผนที่จะใช้การทดสอบไดอะตอมของคุณกอลฟ์กับซากมนุษย์และสุนัขที่เสียชีวิตจากสึนามิหลังการระเบิดของภูเขาไฟเทร่า (Thera หรือ Santorini ในปัจจุบัน) ราว 3,600 ปีก่อนเช่นกัน
คุณกูดแมนอธิบายว่าบางครั้งผู้เสียชีวิตจากสึนามิอาจไม่ได้จมน้ำตาย แต่อาจถูกแรงกระแทกรุนแรงหรือมีสาเหตุเสียชีวิตอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การทดสอบไดอะตอมแบบใหม่จะมีส่วนช่วยในการหาหลักฐานของการเกิดสึนามิได้ หากมีการพบศพที่เสียชีวิตจากการจมน้ำในบริเวณเดียวกัน อาจทำให้ตีความได้ว่ามีสึนามิเกิดขึ้น