ไม่มีลูกไม่เข้าใจ อาการ ลองโควิด ในเด็ก ผลกระทบรุนแรงที่ไม่มีใครคาดคิด

ไม่มีลูกไม่เข้าใจ อาการ ลองโควิด ในเด็ก ผลกระทบรุนแรงที่ไม่มีใครคาดคิด

งานวิจัยเผย ลองโควิด เกิดในเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่ โดยงานวิจัยที่กำลังดำเนินการนี้ ช่วยนักวิทยาศาสตร์เข้าใจอาการโรคและความเสี่ยงการเกิดลองโควิดในเด็ก

เด็กชายโอเวน ไม่ระบุนามสกุล อายุ 11 ปี เป็นสมาชิกคนสุดท้ายในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด-19 สมาชิกคนอื่นในบ้านฟื้นตัวจากไวรัสได้ภายในสองสัปดาห์ แต่โอเวนต่างออกไป อาการของเขาอยู่นานต่อเนื่อง หลายสัปดาห์ต่อมาสายตาของเขาเริ่มพร่ามัว เริ่มมีอาการหลงลืม สีผิวซีดลง และเจ็บหน้าอกและช่วงท้องอย่างรุนแรงทุกคืน “ไม่รู้เลยว่าเขาจะมีชีวิตถึงพรุ่งนี้ไหม” ซูซี่ แม่ของเด็กชายเสริม

โอเวนเข้ารับการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) หรือ การเอคโคหัวใจ ผลการตรวจพบว่าการตรวจดวงตา เอกซเรย์ปอด และตรวจหัวใจอยู่ในค่าปกติ แพทย์จึงวินิจฉัยว่าเขาไม่ได้มีภาวะมิสซี (MIS-C) หรือกลุ่มอาการอักเสบในหลายระบบของร่างกายเด็ก แต่เป็นโรคหายากอันเกิดจากการติดเชื้อโควิด ซูซี่กล่าวว่า “ฉันและสามีต่างไม่มีใครรู้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการลองโควิด” ขณะเดียวกันซูซี่แจงว่า กุมารแพทย์ของโอเวนก็ไม่ได้พูดถึงอาการลองโควิด รวมถึงวิธีรักษาอาการที่เด็กชายเผชิญอยู่

ภาวะลองโควิดจะพบในเด็กได้น้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่มีนักวิจัยจำนวนมากพยายามทำความเข้าใจอาการลองโควิดในเด็กและวิเคราะห์ความเสี่ยงว่าใครมีแนวโน้มจะเป็นลองโควิดได้บ้าง ซึ่งในปัจจุบันมีคลินิกลองโควิดสำหรับเด็กประมาณสิบสองแห่งในสหรัฐฯ จากการรวบรวมรายชื่อของกลุ่ม long COVID Families

(จากซ้ายไปขวา) เล็กซี สตรอยนีย์ 6 ขวบ, แม่ เคท ฟอร์เต, และชาร์ลี สตรอยนีย์ 8 ขวบ นั่งรอผลในห้องตรวจโรคอย่างยาวนาน ณ โรงพยาบาลแห่งชาติเด็ก กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 หนูน้อยเล็กซีมีผลตรวจโควิดเป็นบวก ขณะที่ชาร์ลี พี่สาว มีผลตรวจเป็นลบ สองพี่น้องนี้เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) มีจุดประสงค์เพื่อตรวจหาผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อสุขภาพร่างกายและคุณภาพชีวิตเด็ก
ภาพถ่าย CAROLYN KASTER, AP PHOTO

ลอร่า มาโลน นักกุมารเวชศาสตร์ประสาทวิทยา จากสถาบันเคนเนดี เครย์เกอร์ของคลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังติดเชื้อโควิด-19 เมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ กล่าวว่า “ช่วงแรกที่โควิดระบาด เราเชื่อว่าเด็ก ๆ จะมีภูมิต้านทานต่อไวรัส” แต่ความเชื่อนั้นเปลี่ยนไปเมื่อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนระบาด “ตอนนี้เห็นกันมากขึ้นแล้วว่าเด็กจำนวนมากสามารถฟื้นตัวหลังติดโควิดได้เป็นอย่างดี” มาโลนยังกล่าวเสริมอีกว่า “แต่ก็ต้องเฝ้าระวังเด็กในกลุ่มที่โควิดอาจนำไปสู่อาการรุนแรงด้วย”

ก่อนที่โอเวนจะติดเชื้อโควิด เขาเป็นเด็กที่มีชีวิตชีวามาก แต่เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาประสบปัญหาในการเดินด้วยระยะทางสั้น ๆ ซูซี่เล่าว่า “ลูกของเราเป็นหนักขนาดที่ว่าแค่เดินจากถนนหน้าประตูบ้านไปที่ถนนใหญ่ก็ยากแล้ว” แทนที่จะได้ไปโรงเรียนแบบปกติ เขาต้องไปโรงเรียนแบบครึ่งวัน หากวันไหนเขารู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายอย่างรุนแรงมากจนทนไม่ไหว ก็ทำได้เพียงรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แม่ของโอเวนกล่าวว่านี่เป็นเรื่องบีบหัวใจมาก ที่เห็นลูกของเธอนอนอยู่บนโซฟาเฉย ๆ ไม่อยากลุกขึ้นมาทำอะไรเลย

ผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นภายระยะเวลา 1 – 5 เดือน ทว่า ในเด็กบางกลุ่มอาจมีอาการคงอยู่ได้นานกว่า

ลองโควิดในเด็กเป็นอย่างไร

งานวิจัยหลากหลายฉบับมีข้อมูลตรงกันว่าอาการลองโควิดในเด็กที่พบบ่อยที่สุดในเด็กคือ มีอาการปวดท้อง ปวดศีรษะ อ่อนเพลียง่าย อารมณ์แปรปรวน ขาดสมาธิหรือสมาธิสั้น และมีปัญหาในการนอนหลับ

การวินิจฉัยภาวะลองโควิดในเด็กอาจซับซ้อนกว่าที่คิด โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังอธิบายความรู้สึกได้ไม่เก่ง กล่าวคือ แพทย์ไม่สามารถแยกอาการที่เกิดจากเชื้อไวรัส COVID-19 ออกจากอาการอันเกิดจากวิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) ในบริบท COVID-19 อย่างการเรียนออนไลน์ มาตรการล็อคดาวน์ และการเผชิญกับสภาวะโดดเดี่ยวทางสังคม

พยาบาลคนหนึ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ในแขนผู้หญิงคนหนึ่งในโรงยิมของโรงเรียนมัธยมปลายโคโรนาในเขตแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ในเมืองโคโรนา เมื่อเดือนมกราคม 2021 ภาพถ่ายโดย FREDERIC J. BROWN, AFP VIA GETTY IMAGESA

นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention) แก้ปัญหาความซับซ้อนในการวินิจฉัยอาการลองโควิดในเด็กด้วยการนำข้อมูลเด็กที่เคยมีผลตรวจเชื้อไวรัสโควิดเป็นบวกเกือบ 780,000 คน เปรียบเทียบกับเด็กกว่า 2.3 ล้านคนที่ระบุว่ามีอาการอื่นร่วม นอกเหนือจากอาการอันเกิดจากโควิด-19

ข้อมูลผลการวิจัยล่าสุดเปิดเผยว่า คนที่เคยได้รับเชื้อโควิดหลัง 31 วันเป็นต้นไปจนถึง 1 ปี มีแนวโน้มว่าตนสูญเสียความสามารถในการรับรสและดมกลิ่น มีปัญหาทางระบบไหลเวียนโลหิต เหนื่อยล้า และเจ็บปวดตามร่างกาย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจพบได้แต่ไม่บ่อยนัก ในทำนองเดียวกัน โอกาสที่อาการดังกล่าวจะพัฒนาไปเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เบาหวานชนิดที่ 1 ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ และไตล้มเหลวก็อาจพบได้ไม่มาก แต่ก็มีโอกาสสูงเช่นกัน

ลองโควิดส่งผลต่อเด็กเพียงใด

ในบทวิเคราะห์หนึ่งของเดือนมิถุนายน 2565 นักวิทยาศาสตร์รายงานผลงานวิจัยเรื่องลองโควิดทั้ง 21 ชิ้นและสรุปประเมินได้ความว่า ประมาณร้อยละ 25 ของเด็กและวัยรุ่นเกือบ 80,000 คนที่เคยติดโควิดแล้ว มีอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการขึ้นไป และคงอยู่ยาวนานติดต่อกัน 28 วันหลังได้รับเชื้อไวรัส ทว่า ถ้าเป็นกลุ่มผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล สัดส่วนของการพบอาการเหล่านี้จะพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 29

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยอื่น ๆ เผยว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจต่ำกว่านั้น งานวิจัยหนึ่งของเดือนกรกฎาคม 2565 รวบรวมข้อมูลเด็กที่เคยติดโควิดจากหลากหลายประเทศเกือบ 1,900 คน พบว่า ร้อยละ 5.8 มีอาการลองโควิดประมาณ 90 วันหลังผลตรวจเป็นบวก และพบอาการลองโควิดร้อยละ 9.8 ของกลุ่มผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

วัคซีนโควิด-19
คนไข้ในเมืองซีแอตเทิลรับบัตรบันทึกการฉีดวัคซีนจาก CDC ในเดือนมกราคม 2021 หลังจากได้รับวัคซีนโควิด-19 ทั้งบัตรบันทึกและพาสปอร์ตวัคซีนดิจิทัลอาจจะเป็นส่วนสำคัญในการเปิดการเดินทางอีกครั้ง ภาพถ่ายโดย GRANT HINDSLEY, AFP/GETTY IMAGES

โรแลนด์ เอลลิ่ง ผู้เชี่ยวชาญสาขากุมารเวชศาสตร์โรคติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยฟรายเบิร์ก ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า หากเทียบภาวะการเกิดลองโควิดในเด็กกับผู้ใหญ่แล้ว อาการลองโควิดในเด็กและวัยรุ่นมีโอกาสพบได้น้อยกว่าผู้ใหญ่อยู่มาก เนื่องจากร่างกายเด็กมีระดับภูมิแอนติบอดีที่สูงกว่า ช่วยให้คงอยู่ในร่างกายได้นานกว่า และทำลายไวรัสได้รวดเร็วกว่าร่างกายของผู้ใหญ่

อย่างไรก็ดี ระยะเวลาการติดตามผลตรวจแต่ละครั้งหลังได้รับเชื้อโควิดที่แตกต่างกัน ส่งผลให้การเปรียบเทียบงานวิจัยการประเมินภาวะโรคทำได้ยาก นอกจากนี้ ยังไม่ค่อยมีผู้ที่ตั้งคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับงานวิจัยภาวะลองโควิดในเด็กเท่ากับงานวิจัยในผู้ใหญ่ “จะทำวิจัยในเด็กรูปแบบเดียวกับวิจัยในผู้ใหญ่ยากกว่าเยอะมาก” โจชัว มิลเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญสาขากุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน จากศูนย์การแพทย์เออร์วิง มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นครนิวยอร์ก กล่าว

สุจิตรา เรา กุมารแพทย์โรคติดเชื้อจากโรงพยาบาลเด็กโคโลราโด และหัวหน้าการวิจัยลองโควิดที่ทำการศึกษาโดยใช้ข้อมูลสุขภาพเด็ก 9 คนจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ในสหรัฐ ชี้ให้เห็นว่า นอกจากผู้ป่วยเด็กจะต้องเผชิญกับอาการรุนแรงหรือภาวะเรื้อรังจากโควิดแล้ว กลุ่มเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะลองโควิด ทำให้ผู้ปกครองมีแนวโน้มจะพาลูกๆ ไปพบแพทย์ หรือยังคงต้องรอดูผลกระทบทางจิตใจในกลุ่มเด็กช่วงวัยนี้กันต่อไป ตอนนี้งานวิจัยส่วนใหญ่พบว่า มีเพียงวัยรุ่น โดยเฉพาะวัยรุ่นผู้หญิง รายงานว่าพวกเธอมีแสดงอาการผิดปกติจากโควิดคงอยู่อย่างต่อเนื่อง

Esme กำลังปีนหน้าต่างในห้องนั่งเล่น ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ในย่านฮาร์เลม เมืองนิวยอร์ก Esme ชอบยืนบนขอบหลังหน้าต่างและโบกมือให้คนที่เดินทางผ่าน ไม่ก็ตะโกนไล่นก เธออยากออกไปข้างนอกแต่ครอบครัวของเธอไม่อนุญาต แม้เด็กมักมีอาการของโรคโควิด-19 ไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่ แต่การติดเชื้อย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงของอาการโควิดระยะยาวหรือ “‘ลองโควิด” (Long COVID) อยู่เสมอ

ลองโควิดในขั้นการทดลองทางคลินิกยังคงดำเนินต่อไป

นักวิทยาศาสตร์ในสหราชอาณาจักร รวมกลุ่มกันทำงานวิจัยที่เรียกกันว่า CLoCK งานวิจัยนี้ใช้แบบสอบถามออนไลน์เก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 เพื่อติดตามวัยรุ่นจำนวน 30,000 คน ที่ครึ่งหนึ่งเคยติดโควิดในช่วง 3, 6, 12 และ 24 เดือน โดยนับหลังจากการวินิจฉัยยืนยันครั้งแรกในห้องปฏิบัติการ เทเรนซ์ สตีเฟนสัน กุมารแพทย์จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน (University College London) และหัวหน้าทีมนักวิจัย CLoCK เปิดเผยว่า ผู้เข้าร่วมงานวิจัยหลายรายที่มีอาการผิดปกติแสดงคงอยู่ต่อเนื่อง เช่น อาการอ่อนเพลีย หายใจลำบาก สามารถฟื้นตัวได้ภายในหกเดือน

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าผู้เข้าร่วมอีกกลุ่มจะเริ่มพัฒนาอาการตั้งแต่ช่วง 6 เดือนแรกของการติดตามผล และอาการค่อย ๆ ดีขึ้นในหนึ่งปี สตีเฟนสันให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายสาเหตุการเกิดอาการลองโควิด ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าวัยรุ่นจำนวนหนึ่งสามารถติดโควิดซ้ำ ขณะที่วัยรุ่นอีกจำนวนหนึ่งปรับตัวเข้ากับโรคระบาดแล้ว

ทีมของสตีเฟนสันกำลังติดตามผลการทดลองของผู้เข้าร่วม ด้วยการให้ผู้เข้าร่วมรายงานภาวะสุขภาพของตนเอง และทางทีมยังวางแผนคิดจะรวบรวมผลการตรวจสมองและหัวใจ เฉกเช่นเดียวกับการทดสอบการออกกำลังกาย เพื่อค้นหาความผิดปกติอื่น ๆ ในระหว่างที่การวิจัยลองโควิดยังไม่กระจ่าง

สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ กำลังรวบรวมเงินทุนสำหรับการทดลองแบบเดียวกัน เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุการเกิดลองโควิดในเด็ก ผลกระทบ และคิดหาวิธีการรักษาอย่างมีศักยภาพ

โรคระบาด, ตรวจโควิด, บุคลากรทางการแพทย์
บุคลากรทางสาธารณสุขดำเนินการตรวจโควิด-19 แบบไดร์ฟทรูในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ภาพถ่ายโดย CALLAGHAN O’HARE, BLOOMBERG VIA GETTY IMAGES

เดือนเมษายนที่ผ่านมา แม่ของโอเวนขอความช่วยเหลือจากสถาบันเคนเนดี้ เครย์เกอร์ ให้ทีมแพทย์ช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารที่ช่วยลดอาการบวมอักเสบ และทำกายภาพบำบัดให้โอเวนฟื้นตัว “การบริหารกิจกรรมไม่ให้เขาทำมากเกินกำลังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เขาผ่านไปได้” ซูซี่กล่าว นอกจากนี้ เธอต้องยอมรับความจริงด้วยว่าบางวิธีการเยียวยาอาจต้องอาศัยเวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป

แม้ว่าโอเวนยังคงมีอาการเหนื่อยง่าย หายใจถี่ แต่อาการเจ็บหน้าอกและท้อง สายตาพร่า และปัญหาด้านความจำลดน้อยลงอย่างมากแล้ว เขาสามารถกลับไปโรงเรียนได้เหมือนเดิม เพียงแต่ต้องพักการเตะฟุตบอลนานถึงหนึ่งปี…แล้วหันไปว่ายน้ำแทน

ขณะเดียวกันมาโลน และนักวิจัยคนอื่น ๆ ก็กำลังช่วยเหลือผู้มีอาการลองโควิดคล้ายกับโอเวน พร้อมกับความหวังว่างานวิจัยที่เพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้การรักษาลองโควิดในเด็กมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย มาโลนกล่าวปิดท้ายว่า ตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา พวกเราได้ทำการวิจัยมามากมาย แต่สาเหตุที่ทำให้เด็กบางกลุ่มไม่มีภาวะลองโควิดขณะที่เด็กบางกลุ่มมีภาวะลองโควิดยังไม่ปรากฏแน่ชัด รวมถึงยังไม่ค้นพบวิธีที่ดีที่สุดที่จะเยียวยาลองโควิดทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้

เรื่อง ปรียันกา รันวัล
แปล สุดาภัทร ฉัตรกวีกุล
โครงการสหกิจศึกษา กองบรรณาธิการเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย


อ่านเพิ่มเติม การติดเชื้อโควิด – 19 หลายครั้งสามารถทำร้ายร่างกายได้มากขึ้น

 

Recommend