อะไรเจ็บกว่ากัน ระหว่างถูกเตะที่อัณฑะ ( เตะผ่าหมาก ) หรือการคลอดลูก?

อะไรเจ็บกว่ากัน ระหว่างถูกเตะที่อัณฑะ ( เตะผ่าหมาก ) หรือการคลอดลูก?

คำถามที่ยังคงสามารถสร้างการถกเถียงในสังคมได้อยู่เสมอ แต่เรื่องราวเหล่านี้มีคำตอบทางวิทยาศาสตร์หรือไม่?

ผู้ชายหลายคนมักอ้างว่าถูกเตะที่หว่างขานั้นเจ็บปวดรุนแรงเหลือหลาย บางคนถึงกับกล่าวในอินเตอร์เน็ตว่า ‘การเตะลูกอัณฑะสร้างความเจ็บปวด 9,000 เดลยูนิตของความเจ็บปวด’ ซึ่งเทียบเท่ากับ ‘กระดูกหัก 3,200 ชิ้น และให้กำเนิดเด็ก 160 คนในคราวเดียว’
.
นั่นฟังดูสุดขั้วมาก ในขณะเดียวกันผู้หญิงก็บอกว่าการคลอดลูกนั้นเจ็บปวดกว่า และผู้ชายนั้นไม่เคยสัมผัสกับเหตุการณ์นี้ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
.
แต่สุดท้ายแล้ว เรื่องความเจ็บปวดนี้มีผู้ชนะจริง ๆ หรือไม่ เราอาจต้องดูกันไปทีละอย่าง

เตะผ่าหมาก

“การถูกตีที่ลูกอัณฑะจะทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดเป็น 2 เท่า มันสามารถทำให้คุณรู้สึกไม่สบาย หรือแม้แต่อาเจียนได้” เว็บไซต์ WebMD ที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการแพทย์กล่าว “และถ้าคุณบาดเจ็บมากพอก็สามารถส่งคุณไปโรงพยาบาลได้”
.
แต่ทำไมพื้นที่เล็ก ๆ (บางคนอาจไม่เล็ก) ถึงเป็นสาเหตุของความเจ็บปวดได้ขนาดนี้? น่าเศร้าที่ต้องบอกว่า ลูกอัณฑะถูกวิวัฒนาการออกแบบมาเพื่อสร้างความทุกข์ทรมานให้กับเจ้าของได้อย่างสมบูรณ์แบบ
.
เหตุผลแรก เนื่องจากอัณฑะเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะเพศ มันถูกใช้เพื่อการเพศสัมพันธ์และการสืบพันธุ์ ด้วยเหตุนี้วิวัฒนาการจึงผลักเส้นประสาทและปลายประสาทไปอยู่ที่นั้นเป็นจำนวนมาก
.
“ในระดับพื้นฐานที่สุด คุณจะรู้สึกเจ็บปวดเนื่องจากตัวรับและเส้นประสาท” นาธาน สตราก (Nathan Starke) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ และผู้อำนวยการคลินิกสุขภาพชายในโรงพยาบาลฮุสตันเมโธดิสท์ (Houston Methodist) กล่าว “และเหตุผลว่าทำไมการโดนลูกอัณฑะจึงเจ็บมากในมุมมองเชิงวิวัฒนาการ ก็เพราะมันเป็นกุญแจสำคัญในการผลิตสเปิร์ม”
.
กล่าวง่าย ๆ ก็คือ ร่างกายจำเป็นต้องทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก เพื่อกระตุ้นให้เราป้องกันและหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ระบบการสืบพันธุ์ของเราได้รับบาดเจ็บ ผิดปกติ หรือใช้งานไม่ได้ โดยรวมแล้ว เรามีอวัยวะที่ไวต่อความรู้สึกตามธรรมชาติอย่างมากอยู่ในถุงบาง ๆ ด้านนอกร่างกาย และเป็นสมบัติสำคัญให้เราต้องป้องกัน
.
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการถูกเตะที่ลูกอัณฑะสามารถสร้างความเจ็บปวดได้หลายระดับ กรณีที่ดีที่สุดคือจะหายภายใน 1 ชั่วโมง แต่กรณีที่เล้วร้ายที่สุดอาจนำไปสู่ความตายที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดได้

ให้กำเนิดทายาท

กระบวนการตามธรรมชาติที่ทำให้ท่อ (ช่องคลอด) ที่มีความยาวเฉลี่ย 3 เซนติเมตรให้ขยายออกได้ราวกับไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อบังคับให้มนุษย์อีกคนออกมา สิ่งนี้ได้คร่าชีวิตบรรพบุรุษของเราไปแล้วถึง 1 ใน 25 แต่สิ่งที่น่าประหลาดที่สุดก็คือ ในสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่แล้ว “ไม่มีใครทรมานขนาดนี้เหมือนมนุษย์”
.
โฮโม เซเปียนส์ ใช้เวลาคลอดบุตรนานหลายชั่วโมง บางครั้งอาจนาน 9 ชั่วโมงหรือบางครั้งอาจนานเป็นวัน ตัวเลขนี้นานกว่าการคลอดของม้าถึง 30 เท่า และแม้ว่าจะเปรียบเทียบกับญาติสนิทของเราที่เป็นไพรเมตแล้วก็ตาม มนุษย์ก็ยังใช้เวลาคลอดยาวนานและเจ็บปวดกว่าอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งเรายังเป็นเผ่าพันธุ์เดียวที่ต้องการความช่วยเหลือในการคลอดบุตร ทว่า ก็ยังมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าไพรเมตอื่น ๆ ในป่า
.
“เมื่อพิจารณาจากขนาดของมารดาปอนด์ต่อปอนด์ เรามีการตั้งครรภ์ที่ยาวนานที่สุด (ของไพรเมต) เรามีลูกที่ใหญ่ที่สุดและมีสมองที่ใหญ่ที่สุด” ฮอลี่ ดันสเวิร์ธ (Holly Dunsworth) นักมานุษยวิทยาชีวภาพจากมหาวิทยาลัยโรดไอส์แลนด์ กล่าว
.
แต่ทำไมล่ะ? นักวิทยาศาสตร์กำลังถกเถียงกันอย่างเข้มข้น แต่โดยส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 ประการคือ สมองที่ใหญ่โตของเรา และร่างกายที่ตั้งตรงของเรา สร้างภาวะที่เรียกว่า ‘ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางสูติศาสตร์’ ซึ่งเป็นวิวัฒนาการแข่งกันระหว่างความสามารถในการเดินและวิ่งได้ดี กับความฉลาด
.
การจะทำให้เดินหลังตรงสองขาได้ดีขึ้นจำเป็นต้องมีสะโพกที่เล็กลง แต่สมองขนาดใหญ่ของเราก็พยายามทำให้กระดูกเชิงกรานขยายใหญ่ขึ้น จนในที่สุดวิวัฒนาการก็พาเรามาถึงจุดนี้ จุดที่สร้างความเจ็บปวดเวลาคลอดบุตรได้ “เพราะมันดีพอแล้ว พอดีกับมนุษย์มากกว่า 7 พันล้านคนบนโลกใบนี้” ดันสเวิร์ธบอก
.
ในระหว่างการให้กำเนิด กล้ามเนื้อของเราจะหดตัวอย่างควบคุมไม่ได้เพื่อบีบให้ลูกน้อยเคลื่อนตัวออกมา ขณะเดียวกันปากมดลูกและช่องคลอดจะถูกยืดออกจนถึงที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น กระดูกก็จะถูกผลักออกไปเพื่อให้มีช่องว่างมากสำหรับทารก บางครั้งสิ่งนี้อาจทำให้รูในช่องคลอดฉีกไปจนถึงทวารหนัก
.
ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นสามารถกินเวลาติดต่อกันหลายวัน (คุณสามีรบกวนเข้าใจ) หรือบางครั้งอาจแย่ลงเรื่อย ๆ จนทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจอ่อนล้า มีการประเมินกันว่าผู้หญิงชาวอเมริกันเสียชีวิตในความเจ็บปวดนี้ราว 33 คนต่อ 100,000 คน

ผู้ชนะก็คือ…

น่าเสียดายที่ต้องพูดว่า ‘ความเจ็บปวดนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล’ และคำกล่าวที่ว่าการเตะลูกอัณฑะทำให้เกิดความเจ็บปวด 9,000 เดลยูนิตนั้นไม่เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์เลย เนื่องจากไม่มีใครสามารถวัดระดับความเจ็บปวดได้ออกมาเป็นตัวเลขอย่างชัดเจน
.
เพราะความเจ็บของอีกคน อาจเป็นเรื่องสนุกของอีกคน บางคนทนความเจ็บระดับนี้ได้เลยให้คะแนนน้อย ขณะที่อีกคนทนความเจ็บจากสิ่งเดียวกันไม่ได้เลย ทำให้ระบุคะแนนสูงลิบลิ่ว สิ่งเหล่านี้ต่างเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย
.
อย่างน้อยเราหวังว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจะผ่านไปได้โดยเร็ว

สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

Image by Darko Djurin from Pixabay

ข้อมูลจาก


อ่านเพิ่มเติม วิทยาศาสตร์ว่าด้วย ความเจ็บปวด

ความเจ็บปวด

Recommend