ชีวิตในยุคดิจิทัลมีนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ทันสมัยมากมายที่อำนวยความสะดวกต่อการดำรงชีวิต แต่ภายในจิตใจส่วนลึกของมนุษย์ บางครั้งก็ต้องการความเรียบง่ายและสามัญ การเดินทางออกไปค้างแรมและใกล้ชิดธรรมชาติจึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หลายคนปรารถนา แม้ว่าทุกวันนี้สถานที่ท่องเที่ยวได้มีการจัดเตรียมที่พักไว้อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว แต่บางคนก็ยังคงหลงใหลการค้างแรมในรูปแบบการนอนเต็นท์ หรือ Camping เสน่ห์อย่างหนึ่งของการค้างแรมคือ ความเรียบง่าย นอกจากนี้ การได้ออกไปค้างแรมในสถานที่แปลกใหม่ถือเป็นการเติมอรรถรสให้ชีวิตได้ดีทีเดียว
อุปกรณ์หลักๆ ที่ขาดไม่ได้สำหรับการออกไปค้างแรมคือ เต็นท์ ปัจจุบันอุปกรณ์ที่เอื้อต่อกิจกรรมค้างแรมมีให้เลือกสรรมากขึ้น อีกทั้งยังมีการออกแบบที่ช่วยสร้างบรรยากาศแก่การพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ผู้ผลิตได้พัฒนาเต็นท์รูปแบบต่างๆ ที่เหมาะกับการไปค้างแรม นักเดินทางสามารถเลือกรูปแบบเต็นท์ที่เหมาะสมกับสถานที่ และจำนวนสมาชิกที่จะพักด้วย เมื่ออุปกรณ์ต่างๆ พร้อม เราก็สามารถเพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมค้างแรมได้อย่างมีสไตล์
วันนี้เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก รีวิวเต็นท์ ที่โดดเด่นทั้งเรื่องการออกแบบและการใช้งานที่ครบครัน เริ่มจากเต็นท์ขนาดเล็กสำหรับ 1-2 ท่าน ของแบรนด์ Kamp-Rite ที่ออกแบบมาคล้ายๆ เตียงพับ หรือที่เรียกว่า Tent Cot เต็นท์ที่ออกแบบมาให้มีขาตั้งสูงจากพื้น หมดปัญหาเรื่องน้ำไหลเข้าเต็นท์เวลาฝนตก หรือปัญหาจากแมลงหน้าดินที่มารบกวนยามดึก พร้อมทั้งมีหน้าต่างระบายอากาศรอบเต็นท์ พร้อมทั้ง Flysheet กันน้ำค้าง นอกจากนี้บริเวณแผ่นรองนอนยังมีการเสริมฟองน้ำเพื่อเสริมให้แผ่นรองหลังแข็งมากขึ้น ป้องกันการหย่อนของหลังเวลาล้มตัวลงนอน
มารู้จักเต็นท์แบบ Flying จากแบรนด์ Flying Tent ที่มีน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแบกเป้เที่ยวแบบฉายเดี่ยว เพราะมีขนาดเล็กและยังสามารถสะพายเป็นเป้ได้อย่างสบาย พร้อมด้วยตาข่ายกันแมลงและช่องระบายอากาศในตัว นอกจากจะแขวนเป็นเต็นท์ลอยได้แล้ว ยังปรับให้เป็นเปลญวนได้อีกด้วย เหมาะสำหรับการนอนดูดาวในเวลากลางคืน โดยหมดปัญหากวนใจจากแมลงและฝนไปได้เลย สิ่งที่โดดเด่นไม่เหมือนใครคือ เต็นท์ตัวนี้สามารถสวมใส่เป็นเสื้อกันฝน พร้อมปรับความยาวได้ตามที่คุณต้องการ
The Cave เป็นเต็นท์ที่มีลักษณะเป็นถ้ำ รูปร่าง 5 เหลี่ยม เหมาะสำหรับ 2-3 ท่าน จากแบรนด์ Heimplanet มีลักษณะเด่นคือ มีหลังคาเป็นรูปดาว โครงสร้างด้านนอกเป็นรูปเพชร แถมยังทนทานเพราะทำจากใยโพลิเอสเตอร์ถึง 2 ชั้น คุณสามารถกางเต็นท์คนเดียวได้อย่างสบายๆ เพียงแค่สูบลมเข้าไปเจ้าเต็นท์ตัวนี้ก็พร้อมใช้งานภายในไม่กี่นาที นอกจากพื้นที่ด้านในจะกว้างถึง 5 เมตรแล้ว ยังมีพื้นที่ใต้หลังคาที่สามารถทำเป็นโคมไฟ และช่องจัดเก็บของเล็กๆ ตามมุมทั้ง 5 เหลี่ยม ถือเป็นการประหยัดพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยมีน้ำหนักเพียง 4.8 กิโลกรัม และยังพับเก็บเป็นกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย
Tower Tent T032 หรือเต็นท์กระโจมอินเดียนแดง จากแบรนด์ Vidalido มาพร้อมรูปทรงที่โดดเด่นไม่เหมือนกับเต็นท์ทั่วๆ ไป นอกจากคุณสามารถไปตั้งแคมป์เดินป่าได้แล้ว คุณยังสามารถเปลี่ยนบรรยากาศไปพักผ่อนที่ทะเลทำรีสอร์ทขนาดเล็ก หรือไปปิกนิกได้อย่างสบาย มีน้ำหนักเพียง 5.8 กิโลกรัม คุณสามารถตั้ง Flysheet สำหรับกันแดดเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติ แม้คุณจะเก็บของไว้ด้านในก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีคุณสมบัติกันน้ำพร้อมทั้งที่ระบายอากาศภายในตัว หรือถ้าอยากนอนดูดาวก็สามารถพับผ้าคลุมด้านนอกเพื่อเปิดโปร่งทั้งหลังโดยปลอดภัยจากยุงและแมลง
ถ้าคุณกำลังมองหาเต็นท์ขนาดใหญ่ยักษ์ทางแบรนด์ Canvascamp มี SIBLEY 600 TWIN STANDARD เต็นท์ที่ตอบโจทย์สำหรับไปพักผ่อนกับครอบครัว และเพื่อนฝูง เหมาะสำหรับ 8-10 ท่าน ด้วยรูปทรงสูงโปร่งสีขาว พร้อมขนาด 4x6x3 เมตร สามารถใส่เตียงขนาด 6 ฟุต หรือวางโต๊ะรับประทานอาหารได้อย่างง่ายดาย โดยจัดวางได้ตามใจคุณ เต็นท์นี้มี Flysheet สำหรับกันแดดกันฝน ซึ่งคุณยังสามารถใช้พื้นที่ด้านนอกสำหรับนั่งเล่น หรือทำอาหารได้ เรียกได้ว่าเป็นเต็นท์ที่ครบครันเหมาะสำหรับการไปตั้งแคมป์แบบหลายคน
***แปลและเรียบเรียงโดย ปุณยวีร์ เฉลียววงศ์เจริญ
โครงการนักศึกษาฝึกงาน กองบรรณาธิการ นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย
อ่านเพิ่มเติม: เดินป่า ในประเทศไทย กับระดับความยากที่ต่างกัน