ไทยเบฟ มุ่งมั่นใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม

ไทยเบฟ มุ่งมั่นใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ ไทยเบฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนหลักคิดเรื่อง “ความยั่งยืน” และยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน ดูแลสิ่งแวดล้อม

ไทยเบฟตระหนักว่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการพัฒนาความยั่งยืน จึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อประยุกต์ใช้ในการจัดการพลังงาน น้ำ ตลอดจนวัสดุบรรจุภัณฑ์และของเสีย เพื่อลดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) และมองว่าความร่วมมือจะมีมากขึ้นตามพันธกรณีในฐานะสมาชิกของ สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนประการที่ 17 ขององค์การสหประชาชาติ (SDG 17) “ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”

ไทยเบฟกำหนดเป้าหมายด้านการพัฒนาความยั่งยืนที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญ เพื่อลดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยไทยเบฟให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ ยกตัวอย่างเช่น การลดปริมาณการใช้น้ำในกระบวนการผลิต การลดการใช้ทรัพยากรใหม่ผ่านการนำกลับมาใช้ซ้ำหรือกลับมาใช้ใหม่

ไทยเบฟเล็งเห็นว่า น้ำ ถือเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับการดำรงชีวิต ซึ่งในปัจจุบันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของชุมชนเมืองเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำที่สูงขึ้น ไทยเบฟในฐานะที่เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มและอาหารรายใหญ่ มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมต่อความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการใช้น้ำซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนน้ำในอนาคต ไทยเบฟได้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำของห่วงโซ่คุณค่า พร้อมทั้งพัฒนานวัตกรรมเพื่อปรับปรุงการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคุมคุณภาพน้ำที่ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด รวมถึงทำการประเมินความยั่งยืนของการใช้น้ำ เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบการใช้น้ำทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไทยเบฟได้กำหนดนโยบายด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างระบบการบริหารจัดการน้ำที่ครบวงจรตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การประเมินความยั่งยืนของการใช้น้ำในส่วนของโรงงานที่มีการผลิต เพื่อประเมินระดับความเสี่ยงของน้ำในแต่ละพื้นที่และกำหนดเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งมีการประเมินการใช้น้ำตลอดวัฏจักรของผลิตภัณฑ์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างสูงสุด นอกจากนี้ ไทยเบฟได้ร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการดูแลและอนุรักษ์แหล่งน้ำ รวมไปถึงการดูแลชุมชนให้สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดในการอุปโภคและบริโภค เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศ ผ่านทางโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการประเมินความยั่งยืนของน้ำผิวดินและน้ำใต้ดิน โครงการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ และดูแลแหล่งน้ำร่วมกับชุมชน ซึ่งการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้เกิดอัตราส่วนการลดการใช้น้ำ การนำน้ำมาใช้ซ้ำ และการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ เมื่อเทียบกับปริมาณทรัพยากรน้ำที่ดึงมาได้ทั้งหมดของไทยเบฟ

ด้านการบริหารจัดการของเสีย บรรจุภัณฑ์ และเศรษฐกิจหมุนเวียน ไทยเบฟให้ความสำคัญกับการลดปริมาณการใช้ทรัพยากร การออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังคำนึงถึงการนำวัสดุบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคกลับคืนสู่กระบวนการผลิตเพื่อลดปริมาณของเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรจุภัณฑ์หลัก เช่น แก้ว กระดาษ กระป๋องอะลูมิเนียม และขวดพลาสติก PET ซึ่งได้มีการนำขวดพลาสติก PET หลังการบริโภคเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเส้นใย rPET (recycled PET) นำไปผลิตเป็นเส้นใยเพื่อทอผ้าห่มผืนเขียว ซึ่งช่วยลดปัญหาขยะจากขวดพลาสติก ภายใต้โครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว” โดยมี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล จำกัด รับผิดชอบในการเก็บกลับคืนบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค เพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือนำกลับมาใช้ใหม่ และยังมีความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงคู่ค้าทางตรงและทางอ้อม ผู้ประกอบการรายย่อย และผู้บริโภค เพื่อบริหารจัดการและสร้างคุณค่าให้กับบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค ผ่านระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

ไทยเบฟได้ร่วมมือกับคู่ค้าพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในบรรจุภัณฑ์หลัก และมีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน โดยมีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม เช่น การลดน้ำหนักกระป๋องอะลูมิเนียม การลดน้ำหนักขวดพลาสติก PET ที่ใช้ในการบรรจุน้ำดื่ม และมีโครงการที่ช่วยเก็บกลับและคัดแยกบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค ซึ่งจะเป็นการจำแนกประเภทของบรรจุภัณฑ์และลดปริมาณขยะที่ถูกนำไปกำจัดโดยการฝังกลับ ซึ่งไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล ทำหน้าที่เก็บกลับและคัดแยกบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค โดยรับซื้อบรรจุภัณฑ์หลักของไทยเบฟทุกประเภท เช่น ขวดแก้ว กระป๋อง ขวดพลาสติก PET กล่องกระดาษ เป็นต้น นอกจากนี้ ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล ยังมีการบริหารจัดการวัสดุและอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย และอุปกรณ์เครื่องครัวจากร้านอาหารในเครือ ที่เสื่อมสภาพหรือไม่สามารถใช้งานได้แล้ว เช่น โต๊ะอาหาร ตู้เย็น กลับมาซ่อมแซม และตกแต่ง (Refurbish) เพื่อเพิ่มมูลค่า และเพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้อีกครั้ง

 

Recommend