โตโยต้า เดินหน้าสู่เป้าหมายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ปลูกต้นไม้ 600,000 ต้น ในโอกาสครบรอบ 60 ปี

โตโยต้า เดินหน้าสู่เป้าหมายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ปลูกต้นไม้ 600,000 ต้น ในโอกาสครบรอบ 60 ปี

พื้นที่สีเขียวกับชีวิตผู้คนสัมพันธ์จนแยกจากกันไม่ออก และพวกเราทุกคนคือกำลังสำคัญที่จะลงมือเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อช่วยโลกใบนี้ร่วมกัน

ความยั่งยืนเป็นประเด็นใหญ่ของโลกที่จะต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ตั้งแต่สองมือเล็กๆ ของทุกคน ไปจนถึงการสร้างพันธกิจยิ่งใหญ่ในระดับองค์กร เช่นเดียวกันกับวิสัยทัศน์ใหม่ของโตโยต้า กับการเป็น “ผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คน และความยั่งยืนของสังคม” ในโอกาสครบรอบ 60 ปีการดำเนินงานในประเทศไทยของโตโยต้า

หากแต่เป้าหมายนี้จะสำเร็จลุล่วงไปถึงปลายทางอย่างที่วาดฝันไว้ได้ จำเป็นจะต้องประสานพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม เช่นเดียวกันกับโครงการ “โตโยต้า ครบรอบ 60 ปี ปลูกป่า 600,000 ต้น” ที่ตั้งเป้าเป็นโครงการระยะยาวร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น กรมป่าไม้ และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่โตโยต้าได้ทยอยปลูกป่าจนครบล้านต้นสำเร็จไปแล้วในปี 2012 และต่อเนื่องครบ 2 ล้านต้นทั้งป่าบกและป่าชายเลนจนถึงปัจจุบัน

สำหรับในปีนี้ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนเริ่มต้นจาก 200,000 ต้นภายในพื้นที่โรงงานของโตโยต้าทั้ง 3 แห่ง นำมาซึ่งกิจกรรมเป็นการปลูกป่านิเวศที่โรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์จำนวน 18,000 ต้น ก่อนขยายการดำเนินงานสู่พื้นที่ภายนอกอีก 400,000 ต้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันที่โลกใบนี้ของทุกคน

ความน่าภาคภูมิใจของชาวไทยและชาวโตโยต้า คือโรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์แห่งนี้เป็นพื้นที่นำร่องที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทแม่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์เปอร์เรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นต้นแบบโรงงานแห่งความยั่งยืน 1 ใน 5 แห่ง ของโตโยต้าทั่วโลก

ต้นแบบโรงงานความยั่งยืน จากพื้นที่สีเขียว สู่กระบวนการผลิต

ครั้งนี้เองที่โตโยต้า บ้านโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นแบบของโรงงานแห่งความยั่งยืน ได้เป็นเจ้าภาพสำหรับโครงการปลูกป่าอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนับเป็นการต่อยอดความสำเร็จของกิจกรรมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2551

ในตอนเริ่มต้น กิจกรรมปลูกป่านิเวศเดินตามแนวคิดของ ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ ผู้เชี่ยวชาญการปลูกป่านิเวศจากประเทศญี่ปุ่น สานต่อสู่การปลูกป่านิเวศทั่วประเทศจำนวน 1,350,000 ต้น ในความร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายฯ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน และหน่วยงานต่างๆ พร้อมกับขยายออกไปสู่การปลูกป่าชายเลน ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่ปี 2548 นับจนถึงปัจจุบันนี้เป็นจำนวน 624,000 ต้น

2 ล้านต้นที่ผ่านไป สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 20,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และวาระอันดีครบรอบ 60 ปี ที่โตโยต้าเติบโตคู่กับสังคมไทย และด้วยเป้าหมายที่ชวนทุกคนเดินทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality ในครั้งนี้จึงชวนทุกคนกลับมาตั้งต้นเรื่องราวของพื้นที่สีเขียวและความยั่งยืนที่โรงงานบ้านโพธิ์อีกครั้งหนึ่ง

นอกจากในส่วนระบบนิเวศและพื้นที่สีเขียวรอบโรงงานแล้ว ในห่วงโซ่อุปทานของโตโยต้าเองยังคำนึงถึงวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ผู้ผลิตชิ้นส่วน ผู้ขนส่ง โรงงานผลิตรถยนต์ทุกแห่ง ผู้แทนจำหน่าย จนถึงปลายทางที่ซากรถยนต์หมดอายุการใช้งาน

ส่วนสายพานการผลิตของโตโยต้า ได้มีการหมุนเวียนใช้เครื่องจักรและพลังงานให้เกิดคุณค่าสูงสุด เริ่มต้นตั้งแต่การใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมกันกับทำการ Kaizen อย่างต่อเนื่อง เช่น การนำความร้อนที่เหลือจากเตาเผามาต้มน้ำหรืออุ่นอากาศ แล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ พร้อมกันกับการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด อย่างการติดตั้งหลังคาโซลาร์ ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ซึ่งสำเร็จแล้วกว่า 20 เมกะวัตต์ และจะดำเนินการเพิ่มขึ้นต่อไป

ความรู้เรื่องป่า : ชีวพนาเวศ

ควบคู่ไปกับการลงมือปลูกต้นไม้ คือการปลูกฝังจิตสำนึกรักป่าและโลกลงไปในหัวใจของผู้คน หลังจากที่ทางโตโยต้าได้ลงมือทำจริงกับโครงการปลูกป่านิเวศ และสร้างไบโอโทปมากว่า 8 ปี จนได้คืนผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ องค์ความรู้เหล่านี้ถูกรวบรวมและพัฒนาเป็นหลักสูตร โดยความร่วมมือกับมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ชีวพนาเวศ​ คือหลักสูตรความรู้ด้านการปลูกป่า ที่เน้นให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ลงพื้นที่จริง ลงมือทำจริง และเห็นผลที่เกิดขึ้นจริง เพื่อสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และส่งต่อสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน โดยในปัจจุบันครอบคลุมในระดับประถมศึกษาตอนต้น ประถมศึกษาตอนปลาย และมัธยมศึกษาตอนต้น และกำลังพัฒนาไปสู่ระดับช่วงชั้นอื่นๆ ต่อไป

จากผลการดำเนินงานของหลักสูตรชีวพนาเวศ ทีมของโตโยต้าได้เห็นการเติบโตทางด้านจิตสำนึกและองค์ความรู้ของเด็กและเยาวชนทั้งในจังหวัดฉะเชิงเทรา และพื้นที่ใกล้เคียงที่ผ่านการอบรมกว่า 25,000 คน พวกเขาคือตัวแทนของภาพอนาคตของประเทศไทยที่เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยแรงกำลังและหัวใจของคนรุ่นใหม่เหล่านี้

นอกเหนือจากกิจกรรมในด้านป่าไม้ พวกเราต่างก็คุ้นชินกับชื่อโครงการ “โตโยต้า เมืองสีเขียว” ผ่านกิจกรรม และศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ เช่น กิจกรรมลดเมืองร้อนด้วยมือเรา กิจกรรมลดเปลี่ยนโลก และศูนย์การเรียนรู้โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นกุศโลบายที่ทางโตโยต้าตั้งใจเป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นเมืองสีเขียว ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ ปรับพฤติกรรม เพื่อเป้าหมายปลายทางร่วมกันที่สมดุลแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืนของโลกใบนี้

Recommend