เสพศิลป์ สร้างแรงใจ สู่แนวคิดโลกสมดุลยั่งยืน ที่โซน Better World งาน Sustainability Expo 2023
นอกจากทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงแนวคิด จนถึงการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรมแล้ว ในงาน Sustainability Expo 2023 ยังพาเราไปสำรวจตัวตน จิตใจ และรับชมแนวคิดความยั่งยืนอย่างสุนทรีย์ ภายใต้การรับชมงานศิลปะประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่าย จิตรกรรม ประติมากรรม ผ้าขาวม้า และอื่น ๆ อีกมากมาย
งานศิลปะที่จัดแสดงในมหกรรมความยั่งยืนล้วนจัดแสดงภายใต้แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ และการรักษ์โลก แต่นี่ไม่ใช่การจัดแสดงศิลปะแบบเดิมๆ ที่เพียงแค่ชวนทุกคนมา “รักษ์โลก” เท่านั้น
นี่เป็นการจัดแสดงศิลปะที่เกิดจากการตีความ “ความยั่งยืน” ในแบบที่แตกต่างกันออกไปตามตัวตนของศิลปินแต่ละคน การจัดแสดงชิ้นงานจึงมีความหลากหลายทางความคิด จนสามารถเปิดโอกาสให้คนดูตีความและเชื่อมโยงตัวตนของตัวเองเข้ากับสิ่งที่ศิลปินกำลังจะสื่อ หรือแม้กระทั่งจะรับชมเพื่อความเพลิดเพลิน รับแรงบันดาลใจ ก็เหมาะสมเช่นกัน
ดังเช่นงานประติมากรรมที่เกิดจาก ขดสายไฟ, ถุง, และช้อนสีขาวนับร้อยคันถูกยึดติดเข้าหากันด้วยเทคนิคบางอย่างจนกลายเป็นปีก, ลำตัว, หาง และ หัวของนกนางนวลขาว 2 ตัว พวกมันกำลังนอนอยู่บนฐานซึ่งเต็มไปด้วยเศษขยะที่เรามักพบเห็นในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ, กระดาษ, ถุงดำ, หลอด, ถุงพลาสติก, เชือกฟาง และอื่น ๆ อีกมากมาย
นกนางนวลที่มักขึ้นชื่อเรื่องหัวขโมยอาหารจอมเจ้าเล่ห์ บัดนี้ ในท้องของมันเต็มไปด้วยถุงพลาสติก หลอด ขยะอื่นๆ ที่ศิลปินจงใจขมวดเอาไว้ในท้องของนกนางนวลสองตัวที่เขาสร้างขึ้น ตรงตำแหน่งช่องท้องของมันถูกเปิดออกเพื่อให้คนดูงานสามารถมองเห็นภายในกระเพาะของพวกมัน ถือเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจที่กระเพาะของนกนางนวลพลาสติก กับนกนางนวลในโลกจริงของเรานั้นไม่ได้ต่างกันเท่าไร
ผลงานชิ้นนี้ชื่อว่า “Seagull Story” เสมือนว่ามันกำลังเล่าเรื่องจริงของเหล่านางนวลมีชีวิตผ่านนกนางนวลขยะ ที่ทั้งน่าทึ่งและน่าเศร้าในเวลาเดียวกัน
นี่เป็นเพียงหนึ่งใน 20 ผลงานอันทรงพลังจากโซน Trash to Treasure โครงการประกวดเพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและการออกแบบ โดยนำสิ่งเหลือใช้ ขยะ หรือของที่ดูไม่มีคุณค่ามาสร้างเป็นงานศิลปะ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผลงานที่จัดแสดงมีทั้งรูปแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ซึ่งชิ้นงานแต่ละชิ้นล้วนผ่านกระบวนการคิดอย่างประณีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนวคิด, การจัดวาง และการเลือกใช้วัสดุ
ถัดจากการสรรค์สร้างศิลปะด้วยขยะและของเหลือทิ้ง ก็มาต่อกันที่โซน โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย ที่จัดแสดงผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าทอมือโดยนักศึกษาจากโครงการ “Creative Young Designers” ซึ่งเป็นโครงการที่ผลักดันให้นักศึกษาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าให้ทันสมัยโดยผ่านการเรียนรู้จากชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าโดยตรง
การส่งเสริมในลักษณะที่ให้ผู้เรียนรู้ได้สัมผัสกับวิถีชีวิต, วัฒนธรรม, ผู้คน และชุมชนในแบบที่เป็นของจริง ผสมผสานกับความคิดที่ทันสมัยของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้ผลงานที่ออกมามีความประณีต ลึกซึ้ง ทันสมัย ตัวอย่างเช่น การนำความรักของปู่ม่านย่าม่าน บุคคลผู้ปรากฏอยู่บนฝาผนังวัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน มาเป็นแรงบันดาลใจร่วมกับการผสมผสานแนวคิดของคนรุ่นใหม่ นั่นคือ “ความรักไม่จำกัดเพศ” กลายเป็นชุดผ้าขาวม้าแบบที่ผสมผสานระหว่างลักษณะการแต่งกายของชาวน่านในอดีต และ ลักษณะของเสื้อผ้าที่ไม่มีเพศ (genderless) ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวและใครก็สามารถสวมใส่ได้ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม
แนวคิดการสร้างชุดจากผ้าขาวม้าที่กล่าวไป เกิดจากความร่วมมือของคณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านศรีอุดม จังหวัดน่าน ซึ่งนี่เป็นเพียงหนึ่งในผลงานอันน่าอัศจรรย์จากโครงการนี้เท่านั้น ยังมีการจัดแสดงชุดผ้าขาวม้าอีกมากมายที่เกิดจากความร่วมมือของนักศึกษาและชุมชนกลุ่มอื่น ๆ ในมุมของผู้ชมงาน การรับรู้แนวคิดเบื้องหลังการออกแบบนี้อาจทำให้เรามองเห็นถึงเสน่ห์และจิตวิญญาณของผู้คนผ่านเส้นใยผ้าที่เราเห็นจนชินตาได้มากขึ้นก็เป็นได้
เมื่อกล่าวถึงการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ อีกโครงการหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคืองานประกวดรางวัลศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 12 จาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)ที่มุ่งสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่มีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้อย่างสง่างาม ผลงานที่จัดแสดงให้เราเห็นในโซนนี้มีทั้งหมด 21 ชิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นงานศิลปะภายใต้หัวข้อ “รักโลก” ที่ผ่านการคัดเลือกและเข้ารอบจนได้รับรางวัลจากจำนวนผลงานทั้งหมด 327 ชิ้น มีทั้งชิ้นที่ดูแล้วต้องทำความเข้าใจหลายตลบ, ชิ้นที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีการประกวดภาพถ่ายจากความร่วมมือของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยที่เปิดให้เราเห็นถึงโลกทัศน์ที่น่าสนใจหลาย ๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพสิงสาราสัตว์ พืช ธรรมชาติอันน่าพิศวงจากโครงการประกวดภาพถ่าย “ห้วงเวลาในธรรมชาติ” ซึ่งจัดร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, ภาพถ่ายจากอีกมุมหนึ่งของโลกผ่านสายตาช่างภาพนานาประเทศจากโครงการประกวดภาพถ่าย ASEAN SX Photo Contest 2023 “Good balance, Better World”, ภาพถ่ายประเพณีไทยที่ช่วยสืบสานคุณค่า สาระ ความงดงามของประเพณีไทยสู่นานาชาติในโครงการประกวดภาพถ่าย “ประเพณี 12 เดือน ร้อยมุมมองวิถีไทย”
สามารถชมโซน Better World ได้ที่งาน Sustainability Expo 2023 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันนี้ – 8 ตุลาคม 2566 เวลา 09:00-21:00 น. เข้าชมฟรีตลอดทั้งงาน ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.sustainabilityexpo.com