ออกผจญภัยจากนิวยอร์กด้วย แคมเปอร์แวน

ออกผจญภัยจากนิวยอร์กด้วย แคมเปอร์แวน

Fall Foliage hunting at Kancamagus Highway / ตามล่าใบไม้เปลี่ยนสีที่ Kancamagus Highway

ในวันที่ฝนตกและอากาศเย็นเราทำข้าวต้มอุ่นๆและนำเข้ามาทานในรถเป็นมื้อเช้า

วันนี้ไม่ได้มีแผนการอะไรมากแต่เราก็ตื่นเร็วกว่าปกติ หลังจากอ้อยอิ่งดื่มชาและกาแฟกันอยู่สักพักเราก็ตัดสินใจว่าจะขับรถเล่นๆอ้อมผ่าน Kancamagus Highway*** ขึ้นเหนือแบบไม่มีจุดหมายแน่นอน Kancamagus Highway เป็นถนนที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ผู้คนจากที่ต่างๆมุ่งหน้ามายังถนนเส้นนี้เพื่อขับรถผ่านภูเขาชมทะเลใบไม้สีเหลืองสลับแดงบนเส้นทางระยะ 55 กิโลเมตร

ช่วงต้นเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่ดีที่สุดเนื่องจากต้นไม้ยังไม่สลัดใบร่วงทั้งหมด เมื่อมองจากไกลๆจะเห็นทั่วทั้งภูเขาถูกปกคลุมด้วยพรมไล่เฉดสีแดงเข้มไปจนถึงเหลืองอ่อนสวยงามจนเป็นอีกครั้งที่เราอดปลาบปลื้มกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติไม่ได้เลยจริงๆ

แม้จะไม่มีแสงแดดและท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ในวันนี้ Kancamagus Highway ในเงาหมอกก็ยังคงมีความงามเฉพาะตัว
ระหว่างทางมีจุดสำหรับจอดพักชมวิวเป็นระยะ บางจุดเปิดให้คนเข้ามาใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจระหว่างวันหรือตั้งแคมป์ค้างคืน
แวะทักทายเป็ดที่เชื่องมากจนน่าแปลกใจ แต่เมื่อเดินไปเจอกับตู้อาหารเป็ดหยอดเหรียญก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมเป็ดที่นี่ถึงเชื่องมากเป็นพิเศษ

เราขับรถผ่านเมือง Conway ขึ้นไปจนถึง Crawford Notch และแวะจอดริมทางรถไฟอันเป็นหนึ่งในจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบไม่ต้องขับรถเองที่เรียกว่า Conway Scenic Railroad****

นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟที่มีชื่อว่า Mountaineer รถไฟเก่าแก่จากยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองเพื่อชมวิวในภูเขาเป็นระยะทางไปกลับกว่า 60 ไมล์ ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 6 ชั่วโมง แต่เนื่องจากไม่มีเวลามากพอในวันนี้เราจึงตัดสินใจไปเดินขึ้นเขาสู่จุดชมวิวเป็นการออกกำลังในระยะสั้นแทน

วิวจาก Elephant rock มองลงไปเห็นทางรถไฟสาย Conway Scenic Railroad ทางซ้ายของถนน และเห็นรถของเราที่จอดไว้ด้านล่างอยู่ลิบๆอีกด้วย

สิ่งที่เรายกให้เป็นจุดเด่นที่สุดของวันนี้ คือการค้นพบเส้นทางลัดตัดผ่านกลางภูเขาระหว่างทางกลับไปยัง campground ที่แม้ในตอนแรกเราไม่มั่นใจกับเส้นทางที่ google map แนะนำเพราะไม่อยากเสี่ยงขับรถบนถนนที่แคบและมืดรวมทั้งอาจจะเป็นเส้นทางเลียบหน้าผา แต่ด้วยระยะเวลาที่สั้นกว่ามากทำให้เราตัดสินใจลอง

เมื่อเลี้ยวเข้าไปได้ไม่ถึงห้านาที เราค้นพบว่านี่คือเส้นทางที่ดีที่สุดของทริปนี้ มันดีจนถึงกับต้องขับรถอ้อมเพียงให้ได้มาผ่านทางนี้อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

บนจุดสูงสุดของถนนมีจุดจอดรถเล็กๆให้พักชมวิวได้ หุบเขาด้านล่างเปล่งประกายสีเหลืองทองสลับกับเมฆที่ลอยต่ำ หมอกจางๆไหลเอื่อยๆตามลม เราได้ยินเสียงหวูดรถไฟ Mountaineer ก้องมาจากหุบเขาไกลๆ เดาได้ว่าน่าจะกำลังพาผู้โดยสารกลับไปส่งที่สถานีก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าในวันนี้

เราขับรถกลับมาถึง campground ด้วยความอิ่มใจ นับว่าการเที่ยวแบบเรื่อยเปื่อยไม่ได้มีกำหนดการแน่นอนของเราในวันนี้มีความสำเร็จสูงทีเดียว

Recommend