ออกผจญภัยจากนิวยอร์กด้วย แคมเปอร์แวน

ออกผจญภัยจากนิวยอร์กด้วย แคมเปอร์แวน

Camping  in Pawtuckaway State Park / ขับรถไปนอนบนเกาะกลางน้ำ

จัดการอาหารเช้าง่ายๆในวันที่ฟ้าอึมครึม

เช้าวันต่อมาเราขับรถลงใต้มุ่งหน้าสู่จุดหมายถัดไปชื่อว่า Pawtuckaway State Park อุทยานแห่งชาติอันเป็นเกาะแก่งกลางทะเลสาปที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเล็กๆ campground บนเกาะกลางน้ำแห่งนี้ต้องจองล่วงหน้าเนื่องจากพื้นที่บางส่วนสงวนไว้ให้เหล่า campers เท่านั้น เรามาถึงตอนที่สำนักงานปิดแล้วแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา จากประสบการณ์ที่ผ่านมา campground ส่วนมากล้วนแต่ใช้ระบบความไว้เนื้อเชื่อใจ

ถ้าหากเรามาถึงหลังจากสำนักงานปิดแล้วเราสามารถผ่านเข้าไปพักได้ เพียงแค่ต้องแวะเข้ามาในวันถัดไปเพื่อแจ้งรายละเอียดการจองให้ผู้ดูแลรับทราบและรับป้ายห้อยหน้ารถเป็นการยืนยันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

จากทางเข้าเราต้องขับรถผ่านเกาะแก่งต่างๆเข้าไปอีกประมาณ 10 นาทีจึงจะถึง Horse Island ที่เราจองไว้ ครั้งนี้เราเลือก campsite ริมน้ำเพราะตั้งใจว่าจะใช้เวลาอีกสองวันข้างหน้าพักผ่อนให้เต็มที่เนื่องจากมีแผนการปีนเขาสูงก่อนกลับนิวยอร์ก ที่นี่มีคนน้อยกว่าที่คิดไว้ น่าจะเป็นเพราะใกล้หมดฤดู camping แล้ว

เราตื่นเช้าตรู่มาพบกับแสงแดดสดใสและอากาศอบอุ่นแบบน่าแปลกใจ สิ่งแรกที่ทำในวันนี้คือพุ่งตัวไปอาบน้ำที่ห้องน้ำรวมหลังจากที่เราไม่ได้อาบน้ำมาสองวัน campgrounds ที่เป็นของรัฐบาลในอเมริกามีหลายแบบให้เลือก เราสามารถดูข้อมูลจากเวบไซต์ Reserve America***** ได้ว่าแต่ละแห่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง

แม้ว่าจะมีราคาแตกต่างกันไป สิ่งดีที่เราสังเกตได้จากทุกที่คือความสะอาดทั้งของห้องน้ำและพื้นที่ campsite ที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของเหล่า campers ทั้งหลาย ทุกคนพร้อมใจกันแยกขยะและทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง รวมทั้งช่วยกันเก็บรักษาพื้นที่ให้อยู่ในสภาพที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนจะ check-out เพื่อให้คนที่มาใช้พื้นที่ต่อไปเข้ามาใช้ได้โดยไม่ต้องมีพนักงานมาคอยตามทำความสะอาดให้ นับเป็นตัวอย่างดีๆที่เมืองไทยของเราควรจะนำไปปฎิบัติตาม นอกจากจะเป็นเครื่องแสดงถึงความใส่ใจกับผู้คนทั่วไปแล้วยังเป็นการใส่ใจดูแลรักษาธรรมชาติที่ดียิ่งอีกด้วย

บริเวณพื้นที่ส่วนกลางของอุทยานมีเรือคายัคให้เช่าออกไปพายรอบเกาะแก่งต่างๆได้ แต่เราเลือกที่จะนั่งเฉยๆที่ campsite ของเรา ทักทายสองสาวแปลกหน้าจาก camp ข้างๆและคนที่พายเรือผ่านไปมา ดื่มด่ำกับความเงียบสงบ นั่งจิบกาแฟเคล้าเสียงลมพัดใบไม้ปลิวเบาๆรอบตัว ค่ำลงอากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆได้เวลาจุดไฟให้ความอบอุ่นและทำอาหารปิ้งย่างง่ายๆบนกองไฟ ทุกอย่างเงียบลงมีแต่เสียงแมลงและลมพัดผิวน้ำแว่วมาเป็นระลอกชวนให้สบายใจ

campground ส่วนใหญ่จะมีที่จุดไฟพร้อมทั้งตะแกรงปิ้งย่างไว้ให้พร้อมในทุกๆ campsite นอกจากข้อบังคับหลักๆที่สามารถจุดไฟได้ในจุดที่กำหนดเท่านั้น หลายๆแห่งยังห้ามนำฟืนที่เป็นไม้จากต่างถิ่นหรือต่างรัฐเข้ามาใช้เพื่อป้องกันแมลงนอกถิ่นเข้ามาทำลายระบบธรรมชาติอีกด้วย

Recommend